ซื้อ-ขายทองคำแท่ง
ผ่านทาง Online24 ชม.
ทองเยาวราช มาตรฐาน สคบ.


บทวิเคราะห์ทองคำ และกลยุทธ์การลงทุน ประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2567



อิสราเอลได้USหนุนเตรียมโจมตีอิหร่าน ดึงทองไปต่อ SW UP 2635-2700 คืนนี้วันหยุด US แนะซื้อ
บทวิเคราะห์ทองคำ และก
ยุทธ์การลงทุน ประจำวันที่ 14 ตุลาคม  2567
SPOT  แนวรับ 2635 2615 แนวต้าน 2675 2720
96.5 % (บาท) แนวรับ  41500 41400  แนวต้าน  41800 42100
99.9 % (บาท) แนวรับ  43000 42900 แนวต้าน 43300 43600
สถานะตลาด SIDEWAY UP 2630-2700
จุดเข้า BUY 2635-2650
เป้าหมาย    2675-2700
Stop Loss 2629
ไม่มีสถานะ : ซื้อ
มีสถานะซื้อ :  รอขาย
มีสถานะขาย :   ปิด
ดัชนีอารมณ์ตลาด : 4
บทวิเคราะห์รายวัน
    สัปดาห์ที่ผ่านมาทองพลิกฟื้นมาขึ้นจากข่าวความตึงเครียดตะวันออกกลาง ที่อิสราเอลประกาศจะโจมตีอีหร่านในเร็วๆนี้ โดยสหรัฐฯรีบจัดส่งคนและอาวุธต่อต้านขีปนาวุธช่วย แสดงว่าพร้อมจะเกิดขึ้นแน่ เพียงแต่จะบานปลายแค่ไหน ล่าสุดทางอิหร่านก็พร้อมโต้กลับ /  คืนนี้เป็นวันหยุดโคลัมบัสตลาดสหรัฐฯปิด แต่ไม่น่ามีผลอะไรมาก ตลาดจับตาตัวเลขยอดขายปลีกสหรัฐฯคืนพฤหัส / ภาพรวมทองเคลื่อนไหวเป็นบวกขาขึ้น ตลาดใดที่ปิดเหนือ 2650 ได้ทองจะไปเทส 2700-20 ในเดือนนี้ ก่อนการเลือกตั้งUSAในอีก 3 สัปดาห์จากนี้ ทองจะเปลี่ยนเป็นขาลงก็ต่อเมื่อราคาปิดต่ำกว่า 2630 เกินสองวันทำการ โดยรวมข่าวยังหนุนทอง
    ส่วนค่าเงินบาทยังเป็นการอ่อนค่า เพียงแต่สั้นๆจะมีแข็งค่าเล็กน้อยแล้วอ่อนต่อ ทำให้กลยุทธ์ทองไทยจะค่อยๆขึ้นไม่รุนแรงแบบทองโลก โดยทองโลกมีเป้า 2700 ต้านแรก โดยเฉพาะทองทะลุ 2675 ได้ ส่วนทองไทยมีแนวต้าน 41800-42100 และอย่าลืมการขึ้นชุดนี้แนะนำขายทำกำไรเพราะทองจะลงต่อหลังขึ้นชุดนี้จบ



ทองฟิวเจอร์ร่วงหลุด $2,540 คาดเฟดลดดบ.เพียง 0.25% หลัง CPI ต่ำคาด



InfoQuest - ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 2,540 ดอลลาร์ หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า

ณ เวลา 21.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.23% สู่ระดับ 2,537.30 ดอลลาร์/ออนซ์

นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ดังกล่าว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50%

"สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวได้ลดความเร่งด่วนที่เฟดจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% อย่างที่ตลาดกำลังพูดคุยกัน" นักวิเคราะห์จาก Pimco ระบุ

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 66.0% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 34% เมื่อวานนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% หลังจากปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.2% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.

ขอขอบคุณข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest