ซื้อ-ขายทองคำแท่ง
ผ่านทาง Online24 ชม.
ทองเยาวราช มาตรฐาน สคบ.


บทวิเคราะห์ทองคำ และกลยุทธ์การลงทุน ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567



ยิวเก็บหัวอิซบอลเลาะห์อิหร่านแค้น สัปดาห์นี้ผันผวนทุกวันจับตาจ้างงาน แนะขึ้นขายลงซื้อ 2620-75
บทวิเคราะห์ทองคำ และก
ยุทธ์การลงทุน ประจำวันที่ 1 ตุลาคม  2567
SPOT  แนวรับ 2620 2600 แนวต้าน 2650 2675
96.5 % (บาท) แนวรับ  40300 40200  แนวต้าน  40700 40900
99.9 % (บาท) แนวรับ  41800 41700 แนวต้าน 42200 42400
สถานะตลาด SIDEWAYS 2600-2655
จุดเข้า BUY 2600-2620
เป้าหมาย    2670-2680
Stop Loss 2599
ไม่มีสถานะ : รอย่อ
มีสถานะซื้อ :  ขึ้นขาย
มีสถานะขาย :   รอ
ดัชนีอารมณ์ตลาด : 3
บทวิเคราะห์รายวัน
    ราคาทองย่อลงตามคาดหลังไม่มีการโต้ตอบจากอิหร่าน และเมื่อคืนปธ.เฟดแถลงเป็นกลางๆไม่มีนัยยะเรื่องการลดดอกเบี้ยครั้งหน้า  ภาพรวมทองเข้าโหมดพักฐานในลักษณะซิกแซกลง แต่จะมีจังหวะที่ราคาทองรีบาวด์สั้นๆ  คืนนี้ตลาดจับตาตัวเลขการผลิตฝั่งสหรัฐฯ พรุ่งนี้ตัวเลขจ้างงานจนวันศุกร์ซึ่งเชื่อว่าสัปดาห์นี้ราคาจะสวิงแรงในโหมดการพักฐาน แต่ถ้าข่าวสงครามทวีความรุนแรงแทรกเข้ามาทองก็มีโอกาสพุ่งขึ้นตามราคาน้ำมันที่พุ่งไม่หยุดจากข่าวอิสราเอลเตรียมบุกเลบานอนแล้ว และจีนอัดฉีดมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจจนหุ้นจีนพุ่งเป็นปรากฎการณ์ก่อนปิดวันชาติจีนยาว อาจทำให้ตลาดทองเงียบช่วงเอเชีย
     กลยุทธ์ : ทองรับแรก 2625-30 รับถัดไป 2600 ตราบใดทองยืน 2650 ไม่ได้ยังเป็นทรงลง แต่ข่าวสงครามยังหนุนทองอยู่บางส่วน จึงยังแนะการซื้อช่วงย่อตัวเพื่อเล่นสั้นไปก่อน ส่วนนักลงทุนระยะกลางรอย่อค่อยซื้อถั่ว คาดว่าทองจะผันผวนสัปดาห์นี้จนกลางสัปดาห์หน้าที่จะมีประกาศเงินเฟ้อ CPIสหรัฐฯ



ทองฟิวเจอร์ร่วงหลุด $2,540 คาดเฟดลดดบ.เพียง 0.25% หลัง CPI ต่ำคาด



InfoQuest - ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 2,540 ดอลลาร์ หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า

ณ เวลา 21.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.23% สู่ระดับ 2,537.30 ดอลลาร์/ออนซ์

นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ดังกล่าว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ซึ่งทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50%

"สิ่งนี้บ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนนี้ โดยตัวเลข CPI ดังกล่าวได้ลดความเร่งด่วนที่เฟดจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% อย่างที่ตลาดกำลังพูดคุยกัน" นักวิเคราะห์จาก Pimco ระบุ

นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในสัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 66.0% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 34% เมื่อวานนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนส.ค.ในวันนี้

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% หลังจากปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 3.2% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.

ขอขอบคุณข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest